ร้านค้าปลีกในปัจจุบัน ต้องบริหารต้นทุนอย่างชาญฉลาด ซึ่งการเลือกใช้กระดาษเทอร์มอลที่เหมาะสม ไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่าย แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพการพิมพ์ใบเสร็จให้รวดเร็ว

ร้านค้าปลีกยุคใหม่ ใช้กระดาษเทอร์มอลอย่างไรให้คุ้มที่สุด

ATCO เคยพูดถึง ‘สติ๊กเกอร์ความ (Sticker Direct Thermal)’ ไปแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่พูดถึง ‘กระดาษเทอร์มอล (Thermal Paper)’ ตัวกระดาษความร้อนที่ทำให้เราสามารถพิมพ์ใบเสร็จ หรือ Label ต่าง ๆ โดยใช้ความร้อนเป็นตัวนำ และ บทความนี้เราจะมาแชร์เคล็ดลับที่คนทำธุรกิจออนไลน์อยากรู้ ว่าจะทำอย่างไรถึงจะใช้กระดาษความร้อนได้คุ้มค่าที่สุด ถ้าอยากรู้ก็เลื่อนลงไปอ่านข้างล่างกันเลย

กระดาษเทอร์มอล

กระดาษเทอร์มอล / กระดาษความร้อน / Thermal Paper คือกระดาษชนิดพิเศษที่เคลือบสารเคมีเอาไว้ที่ชั้นนอกสุดของตัวกระดาษ เพื่อให้สามารถใช้ความร้อนจาก ‘เครื่องพิมพ์ความร้อน’ (Thermal Printer) เข้าไปทำปฏิกิริยาเคมีแล้วพิมพ์ออกมาเป็นตัวอักษรไปจนถึงสีที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้ออกมาโดยที่ไม่จำเป็นต้องยุ่งกับตัวหมึกพิมพ์เลย

เมื่อเราเปรียบเทียบตัวกระดาษเทอร์มอลกับ ‘กระดาษธรรมดา (Non Top Coat)’ ความแตกต่างจะอยู่ตรงที่กระดาษธรรมดานั้นไม่ได้เคลือบสารเคมีชนิดพิเศษเอาไว้ จึงขาดตัวป้องกันจากสารละลายต่าง ๆ ไม่ว่าจะน้ำ น้ำมัน หรือน้ำยาอะไรก็ตาม ส่งผลให้มีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าตามลงมาด้วย

ข้อดีของกระดาษเทอร์มอลสำหรับร้านค้าปลีก

สำหรับร้านค้าปลีกที่ต้องพิมพ์ใบเสร็จหรือฉลากสินค้าเป็นประจำ การเลือกใช้ กระดาษเทอร์มอล ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์การทำงานในด้านความเร็ว ความคมชัด และต้นทุนที่ประหยัดกว่าแบบหมึกพิมพ์ทั่วไป มาดูกันว่าเพราะอะไรหลายร้านค้าถึงหันมาใช้กระดาษเทอร์มอล และข้อดีที่ได้รับมีอะไรบ้าง

ข้อดีของกระดาษเทอร์มอลสำหรับร้านค้าปลีก

ความเร็วในการพิมพ์


อันดับแรกเลย กระดาษเทอร์มอลจะช่วยลดต้นทุนแฝงในเรื่องของการใช้แรงไปกับเวลาที่ร้านค้าปลีกทั้งหลายเคยมี เพราะว่าการใช้ความร้อนทำงานในการพิมพ์แทนหมึกหรือริบบอนนั้น ส่งผลให้การพิมพ์มีความเร็วเพิ่มขึ้นมาก ๆ แถมไม่ต้องกังวลว่าหมึกจะหมด หรือว่าพิมพ์ออกมาไม่ชัดรึเปล่าอีกด้วย

ไม่ต้องใช้หมึก ลดต้นทุน


ในช่วงต้นของการลงทุนเพื่อซื้อกระดาษเทอร์มอลกับเครื่องพิมพ์ความร้อนอาจจะแพงกว่าการพิมพ์ด้วยกระดาษปกติที่ใช้หมึก แต่ว่าเป็นการลงทุนเพื่อที่ในระยะยาวเราจะไม่ต้องเสียเงินไปกับการบำรุงรักษาเครื่องพิมพ์ที่หมึกอาจจะเข้าไปติดขัดและเสีย ไปจนถึงการต้องเปลี่ยนริบบอนอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้การใช้กระดาษเทอร์มอลคุ้มกว่าอย่างแน่นอน 

ชัดเจน อ่านง่าย สะดวกต่อผู้ใช้


ไม่ใช่แค่ประหยัดแต่ว่าฟังก์ชันการใช้งานก็ยังยอดเยี่ยม เชื่อว่าคนทำธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ ต้องเคยเจอกับปัญหาประมาณว่า “เอ๊ะ ! ทำไมพิมพ์ออกมาแล้วหมึกไม่ชัดเลย” เป็นเพราะว่าหมึกใกล้จะหมดแล้ว แต่กระดาษเทอร์มอลที่ถูกพิมพ์ด้วยความร้อน จะมีความชัดของตัวอักษรและสีที่คมชัดและเท่ากันอย่างเสมอ เป็นประโยชน์ต่อทั้งคนส่งสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า ไปจนถึงผู้รับเลยทีเดียว

เลือกกระดาษเทอร์มอลอย่างไรให้คุ้มค่าและปลอดภัย

กระดาษเทอร์มอลมีหลายเกรดให้เลือก แต่ไม่ใช่ทุกแบบจะมีราคาคุ้มค่า และปลอดสาร ธุรกิจจึงควรรู้วิธีเลือกให้เหมาะ เพื่อให้พิมพ์ชัด ใช้งานได้นาน และไม่เสี่ยงต่อสารเคมีที่อาจเป็นอันตราย และนี่คือ วิธีเลือกกระดาษเทอร์มอล ให้คุ้มค่าและปลอดภัย

เลือกกระดาษเทอร์มอลอย่างไรให้คุ้มค่าและปลอดภัย

ความหนาและการเคลือบกระดาษ


ใช่ว่ามีกระดาษความร้อนแล้วเราจะสามารถลดต้นทุนได้ดีโดยทันที แต่มันต้องมาควบคู่กับการเลือกกระดาษที่มีความหนาเหมาะสมกับเครื่องพิมพ์ความร้อนด้วย ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดการใช้กระดาษที่ผิดไซส์ซึ่งอาจทำให้เกิดการเสียเงินโดยจำเป็น รวมถึงกระดาษพิมพ์ได้ไม่ถูกต้องส่งผลเสียต่องานได้

เลือกกระดาษที่ได้มาตรฐาน (เช่น BPA-Free หรือ มอก.) เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน


เพราะว่ากระดาษความร้อนเป็นกระดาษซึ่งเคลือบด้วยสารเคมี เพื่อความปลอดภัย เราจึงที่จำเป็นที่จะต้องเลือกแบรนด์ซึ่งปราศจากสารจาก BPA (Bisphenol A) ที่ทำขึ้นเพื่อผลิตพลาสติกและเรซินอันเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ก่อนซื้อจึงต้องเลือกให้ดีก่อนเพื่อทั้งตัวผู้ทำธุรกิจและลูกค้าเอง

เลือกขนาดที่ตรงกับเครื่องพิมพ์


ถ้าหากว่าใช้
‘กระดาษเทอร์มอล 57 x 38 มม.’ จะเหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก ที่ใช้เครื่องพิมพ์แบบพกพา พิมพ์ข้อมูลที่ไม่ได้เยอะมากแต่เน้นพิมพ์ประจำวันในปริมาณที่มีความถี่เป็นพิเศษ / ‘กระดาษเทอร์มอล 57×50 มม.’ ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐาน ก็จะเหมาะกับธุรกิจที่ใช้เครื่องพิมพ์ความร้อนขนาดกลาง อย่างเครื่องรูดบัตร EDC (Electronic Data Capture) หรือการสแกน QR Code ที่เกิดขึ้นในร้านอาหารขนาดเล็ก / ‘กระดาษเทอร์มอล 80 x 80 มม.’ ในร้านค้าที่ใช้เครื่อง POS (Point Of Sale system) ตามแคชเชียร์ของห้างสรรพสินค้า จะเหมาะกับกระดาษไซส์นี้ที่ต้องการการพิมพ์ข้อมูลรายละเอียดการสั่งซื้อที่มากขึ้น ก็จะค่อนข้างเหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย 

พิจารณาผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ (ATCO)


สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกก่อนเสมอ คือการตรวจสอบ Background ของแบรนด์ซึ่งเรากำลังจะเลือกใช้กระดาษเทอร์มอล มีคนใช้เยอะหรือเปล่า ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตมั้ย สิ่งนี้จะสะท้อนว่ากระดาษเทอร์มอลที่เราซื้อมีคุณภาพจริง ๆ

ทำไมร้านค้าชั้นนำเลือกใช้กระดาษเทอร์มอลจาก ATCO

ผลิตตามมาตรฐานสากล ปลอดภัยต่อผู้ใช้ : กระดาษเทอร์มอลของ ATCO คือชื่อที่ได้รับการยอมรับถึงคุณภาพ เพราะนอกจากจะนำเข้าพร้อมผลิตจากเยอรมันโดยแบรนด์ Koehler ผู้ผลิตกระดาษเทอร์มอลที่มากที่สุดของโลกแล้ว เราก็ยังเลือกใช้กระดาษที่สารเคมีที่เลือกใช้ก็ยังปลอดสาร BPA ไม่อันตรายต่อสุขภาพ และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

กระดาษคุณภาพสูง พิมพ์ชัดเจน ไม่ซีดง่าย ทนต่อความชื้น : มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษที่ทั้งทนทานจากการขีดข่วนเสียดสี กันน้ำและสารทำละลายอย่างน้ำมันและน้ำยาต่าง ๆ ไปจนถึงพิมพ์คมชัดตัวเคมีบนกระดาษไม่ทำร้ายหัวเครื่องพิมพ์ ยังสามารถเก็บได้นานกว่า 5-10 ปี โดยที่มีบาร์โค้ดรองรับการขายปลีก

มีหลากหลายขนาด รองรับเครื่องพิมพ์ทุกประเภท : กระดาษเทอร์มอลของ ATCO ทำขึ้นมาแบบเข้าใจคนทำธุรกิจค้าปลีก ด้วยไซส์ที่มีให้เลือกหลากขนาด ตั้งแต่ 57×80 (หนา 58 แกรม) ที่เป็นไซส์มาตรฐาน ไปจนถึงขนาดใหญ่และหนาพิเศษ 80×80 (หนา 65 แกรม)

พร้อมบริการจัดส่งรวดเร็วและดูแลหลังการขาย : ATCO เราจัดส่งกระดาษเทอร์มอลให้ร้านค้าทั่วประเทศด้วยความรวดเร็ว และพร้อมตอบทุกข้อสงสัยที่คุณอาจจะสับสนว่าสิ่งนี้เหมาะกับธุรกิจของตัวเองจริง ๆ มั้ย นอกจากจะเข้าไปดูรายละเอียดสินค้าทั้งหมดได้ทางเว็บไซต์ atcothermalpaper.com แล้ว ก็ยังสามารถติดต่อได้ทาง FB : ATCO Thermal Paper Roll / Line ID : @Atco หรือ โทร (094-363-6914)

ต้องบอกว่าธุรกิจค้าปลีกโดยเฉพาะทางออนไลน์ที่ต้องการความรวดเร็วและความแม่นยำในการส่งสินค้าจำนวนมากตลอดวันอยู่ตลอดเวลา ‘กระดาษเทอร์มอล’ จะตัดปัญหาจุกจิกในกระบวนการส่งสินค้า ได้อย่างถูกต้อง และมั่นใจได้เลยว่าจะถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัย